วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559

ทำไม...เรียกว่า...พระสมเด็จ..



“พระสมเด็จวัดระฆัง” กับที่มาแห่งนาม “จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง”

เรียบเรียงโดย คนรู้น้อย

เมื่อพูดถึงพระเครื่องที่ได้รับการยกย่องสูงสุดในสังคมไทย
หนึ่งในชื่อแรก ๆ ที่ผุดขึ้นมาในใจของนักสะสมและผู้ศรัทธาทั่วไปก็คือ
“พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม”
พระเครื่องเนื้อผงอันเลื่องชื่อ ที่สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)
พระเถระผู้เปี่ยมเมตตา ปรีชาญาณ และเป็นที่เคารพบูชาอย่างสูง


แล้วทำไมจึงเรียก “พระสมเด็จ”?

เชื่อว่าหลายคนอาจเข้าใจว่า “พระสมเด็จ” คือชื่อพระรุ่น
แต่แท้จริงแล้ว...คำนี้ไม่ได้มีมาตั้งแต่แรก
ในยุคที่สมเด็จโตยังมีชีวิตอยู่ ท่านไม่ได้ตั้งชื่อพระที่ท่านสร้างว่า “สมเด็จ”
แต่ผู้คนในยุคนั้นจะเรียกอย่างง่าย ๆ ว่า
“พระพิมพ์” หรือ “พระเนื้อผง”

จนเมื่อสมเด็จโตได้รับการแต่งตั้งเป็น “สมเด็จพระพุฒาจารย์”
ผู้คนจึงเริ่มเรียกพระพิมพ์ของท่านว่า “พระพิมพ์สมเด็จ”
หมายถึง พระพิมพ์ที่สร้างโดยสมเด็จโต
ต่อมาเมื่อมีการเล่าต่อกันรุ่นแล้วรุ่นเล่า
คำว่า “พระพิมพ์สมเด็จ” ก็ถูกย่อให้สั้นลงเหลือเพียง
“พระสมเด็จ” ซึ่งใช้เรียกกันติดปากมาจนถึงทุกวันนี้


เข้าใจให้ชัด — “พระสมเด็จ” เป็นชื่อเรียกที่สื่อถึง “ผู้สร้าง” มากกว่ารูปทรง

ในวงการพระเครื่องปัจจุบัน มักเข้าใจกันว่า
พระที่มีลักษณะ องค์พระปางสมาธิ ประทับนั่งบนฐานสามชั้นขึ้นไป รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ๆ คือพระสมเด็จ
แต่ในเชิงประวัติศาสตร์แล้ว คำว่า “สมเด็จ” สื่อถึง
“พระพิมพ์ที่สร้างโดยพระที่มีสมณศักดิ์ระดับสมเด็จ” เป็นหลัก

ยกตัวอย่างเช่น
หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องวัตถุมงคลเป็นอย่างยิ่ง
แม้พระพิมพ์ของท่านจะมีลักษณะคล้ายพระสมเด็จ
แต่ท่านกลับกล่าวไว้กับลูกศิษย์ว่า

“อย่าเรียกพระของอาตมาว่าพระสมเด็จ เพราะอาตมาเป็นแค่พระครู”

คำกล่าวนี้สะท้อนถึงความสำรวมถ่อมตนของครูบาอาจารย์ในอดีต
แม้ลูกศิษย์จะรักและเรียกกันติดปากว่า “สมเด็จหลวงพ่อแดง”
แต่ในเชิงตำแหน่งทางสงฆ์แล้ว ก็ไม่ใช่ “สมเด็จ” อย่างแท้จริง


แล้วทำไมพระสมเด็จวัดระฆัง จึงได้ชื่อว่าเป็น “จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง”?

คำถามนี้มีคำตอบได้หลายมุม ทั้งเชิงพุทธคุณ เชิงประวัติศาสตร์ และเชิงจิตวิญญาณ
เพราะพระสมเด็จวัดระฆัง...

  • สร้างโดย พระเกจิผู้ทรงภูมิธรรม ที่ได้รับความเคารพสูงสุดในยุค
  • เป็นพระที่มี พุทธลักษณะงดงาม เรียบง่าย แต่ทรงพลัง
  • ใช้ มวลสารศักดิ์สิทธิ์ ที่มีส่วนผสมของผงเก่าหลายชนิด ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาของสมเด็จโตเอง
  • มี ประสบการณ์เล่าขาน จากผู้บูชาในทุกยุคสมัย
  • เป็นพระที่มีจำนวนจำกัด และ แท้จริงนั้นพบเห็นได้ยากมาก
  • จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นพระที่ “อยู่เหนือพระเครื่องทั้งปวง”

ข้อสังเกตสำหรับผู้เริ่มต้นศึกษา

  • ไม่ใช่ทุก “พระพิมพ์ทรงสมเด็จ” จะเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง
  • การพิจารณาแท้-เก๊ ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจลึกซึ้ง
  • แหล่งข้อมูลมีหลากหลาย ทั้งแนวสายวิชาการ สายอนุรักษ์ สายประสบการณ์
  • คำว่า “ถูกพิมพ์” “ถูกเนื้อ” เป็นคำเฉพาะทางที่ควรศึกษาอย่างถ่องแท้
  • การเรียกชื่อพระ อาจสะท้อน “เจตนา” ของผู้ศรัทธามากกว่าความถูกต้องเชิงตำแหน่งเสมอ

สรุป...เรียกพระว่าอะไร สำคัญแค่ไหน?

การเรียกพระพิมพ์ว่า “สมเด็จ” อาจไม่ใช่ประเด็นหลัก
สิ่งสำคัญกว่าคือ ความเข้าใจที่แท้จริง
ทั้งในเรื่องของประวัติผู้สร้าง พุทธศิลป์ มวลสาร และเจตนาในการสร้าง

เพราะไม่ว่าท่านจะเรียกพระว่าอะไร
สุดท้าย...ศรัทธาที่ตั้งมั่นในใจผู้บูชา
ต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญเหนือชื่อเรียกทั้งปวง


เล่าสู่กันฟังแบบคนรู้น้อยครับ
หากท่านผู้อ่านอยากศึกษาเชิงลึกเพิ่มเติม
อาจลองหาข้อมูลเรื่อง...

  • ประเภท “ผงวิเศษ” ที่สมเด็จโตใช้ในการสร้างพระ
  • รูปแบบพิมพ์ต่าง ๆ ของพระสมเด็จวัดระฆัง
  • วิธีพิจารณาพระแท้ในแง่วิทยาศาสตร์ (เช่น การถ่ายภาพจุลทรรศน์ หรือคาร์บอน-14)
  • หรือแม้แต่เรื่องเล่าประสบการณ์จากผู้บูชาในอดีต

เพื่อจะได้เข้าใจ...ว่าเหตุใด
“พระพิมพ์เล็ก ๆ องค์หนึ่ง”
จึงถูกขนานนามว่า...
“จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง” อย่างไม่มีข้อกังขา

        #ภาพไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น