วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

....เหรียญพระเจ้าใหญ่วัดศรีษะแรด....


อยากเขียน...นาน...น๊าน...นานแล้ว...

แต่เพราะเป็นเพียง “คนรู้น้อย” ที่วันหนึ่งดันหลงเดินออกไปไกล...ไกลเสียจนไม่รู้จัก “พระบ้าน” ของตัวเอง

รู้เพียงแต่ว่าท่านคือพระประธานในอุโบสถของวัดหงษ์ — หรือวัดศรีษะแรด ที่ชาวบ้านบ้านผมเรียกกันติดปาก

สิบปีที่แล้ว...

ผมพลิกหนังสือ อมตะพระเครื่อง ของอาจารย์ป๋อง สุพรรณ เปิดไปเจอหน้าโชว์พระเครื่องแดนอีสาน

ภาพหนึ่งทำให้ใจร้อนวูบ...หน้าชา...

ไม่ใช่เพราะความเร้าใจของราคา หากแต่เป็นเพราะความเขลาของตัวเอง

พระในหนังสือ...คือ “พระเจ้าใหญ่”

พระบ้านผมเองแท้ ๆ

ผมกลับไล่ตามพระจากแดนไกล จนหลงลืม...ว่าสมบัติแท้อยู่ใกล้แค่บ้านเกิด

ผมหยิบโทรศัพท์ โทรหาพ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ทุกคน หวังว่าท่านใดจะยังเก็บไว้

แต่คำตอบเหมือนกันหมด...

“ขายไปนานแล้ว”

ตอนนั้นเอง...ผมจึงเริ่มออกตามหา

ในที่สุดก็ได้พระพุทธรูปปั๊มองค์เล็กมาองค์หนึ่งจากลุงคนหนึ่งในหมู่บ้าน

ตอนเห็นครั้งแรกผมยังแอบสงสัย...มีแบบลอยองค์ด้วยหรือ?

ลุงตอบมั่นใจว่า “มี”

เป็นแบบเดียวกับเหรียญรุ่นแรก เพียงเปลี่ยนรูปแบบการสร้างให้สะดวกต่อการแขวนบูชา

ผมไม่ปักใจเชื่อง่าย ๆ เลยโทรถามเพื่อน เซียนพระแถวบ้าน

เสียงตอบกลับตรงกันหมด...

“มีแน่นอน”

ก็เลยต้องยอมรับ...ว่าโง่เองนะเรา อิอิ

---

ขออนุญาตเล่าถึง เหรียญรุ่นแรกพระเจ้าใหญ่วัดหงษ์ และ พระปั๊มลอยองค์ สักหน่อย

เพราะถึงจะไม่มีข้อมูลปรากฏแน่ชัด แต่ก็เป็นพระเครื่องที่ห่อหุ้มไว้ด้วยกลิ่นอายแห่งศรัทธาและพุทธคุณ

ว่ากันว่า...เหรียญรุ่นแรกนี้สร้างราว พ.ศ. 2497

บางคนบอกว่าสร้างขึ้นเพื่อหารายได้บูรณะพระอุโบสถ บ้างก็ว่าเพื่อแจกจ่ายในงานปิดทองพระเจ้าใหญ่ ที่จัดต่อเนื่องมาร่วม 70 ปี

ใครที่เคยอยู่ร่วมยุคสร้าง ก็คงต้องอายุ 80 ปีขึ้นไปแล้ว

...ซึ่งหายากยิ่งกว่าพระ

จำนวนที่สร้างก็ยังเป็นปริศนา

บางแหล่งบอกว่าหลักพัน บางคนว่าไม่ถึงร้อย

แต่ในวงการ เห็นเปลี่ยนมือจริง ๆ ก็แค่ไม่กี่สิบองค์เท่านั้น

สายปลุกเสกก็มีสองความเชื่อ

สายหนึ่งเชื่อว่าเป็น หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต

อีกสายว่าเป็น หลวงปู่ดุลย์ อตุโล

ทั้งสององค์นี้...ไม่ต้องพูดถึงความขลัง

แค่ชื่อ...ก็สะเทือนใจผู้ศรัทธาแล้ว

---

สิ่งหนึ่งที่น่าคิดคือ...

แม้ไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่าใครสร้าง สร้างเมื่อใด หรือสร้างเพื่ออะไร

แต่ เหรียญพระเจ้าใหญ่ กลับได้รับการยอมรับอย่างสูงในหมู่นักสะสม

ราคาขยับขึ้นไม่หยุด

ผมได้พูดคุยกับเพื่อนมัธยมคนหนึ่ง “คุณเชษฐ์ ไธสง” ผู้มีความรักและศรัทธาในพระเจ้าใหญ่อย่างแนบแน่น

เขาบอกว่า...

ตอนนี้แค่จะ “ขอดู” เหรียญสภาพดี ๆ ยังแทบไม่ได้

ส่วนเหรียญที่มีการเปลี่ยนมือ มักเป็นสภาพ 80-90%

แต่ราคาก็แตะหลักหมื่นกลาง ๆ แล้ว


---

แล้วอะไร...ที่ทำให้เหรียญนี้มีคุณค่ามากนัก?

ผมขอตอบในแบบ “คนรู้น้อย” ว่า...

มันคือ “ปาฏิหาริย์” และ “ศรัทธา” ที่จับต้องได้

ผู้ครอบครองจำนวนมากเล่าตรงกันว่า

“แคล้วคลาด ปลอดภัย”

เป็นประสบการณ์ตรงที่เล่าต่อกันมาหลายชั่วอายุคน

และไม่ใช่เพียงตำนานในหมู่บ้าน

แต่เป็นสิ่งที่ยังเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในชีวิตจริง

---

และเหนือสิ่งอื่นใด...

คือ “องค์พระเจ้าใหญ่” เอง

ที่เป็นเสมือนศูนย์รวมจิตใจของชาวบุรีรัมย์

ไม่ว่าจะชาวบ้าน นักการเมือง หรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

ต่างต้องมา “กล่าวคำปฏิญาณ” และ “ขอพร” ต่อหน้าท่าน

บางคนมาขอเรื่องงาน เรื่องความก้าวหน้า

บางคนมาขอเรื่องครอบครัว

แต่ที่เห็นบ่อยที่สุด...คือ “การสาบาน”

สาบานว่าจะเลิกอบายมุข

เลิกเหล้า เลิกการพนัน เลิกยา

หรือแม้แต่เลิกคบชู้ผิดประเวณี

หากใครละเมิดคำสาบาน...

เรื่องราวที่เกิดขึ้นตามมา มักไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

ในอีกด้านหนึ่ง คนที่มาขอพรเรื่องบุตร

หลายคนเล่าว่า

“ฝันเห็นองค์พระเจ้าใหญ่”

และในฝันนั้น...ท่านยื่นของบางอย่างให้

ไม่นานหลังจากนั้น...พวกเขาก็สมหวัง

---

เรื่องราวเหล่านี้...ไม่มีในตำรา ไม่มีในพิพิธภัณฑ์

แต่มันอยู่ในหัวใจของคนที่ศรัทธา

แม้ เหรียญพระเจ้าใหญ่ จะไม่โด่งดังในระดับประเทศ

แต่มันคือหนึ่งใน “พระเครื่องแห่งอีสาน” ที่งดงาม เปี่ยมพุทธคุณ และศักดิ์สิทธิ์จนผู้คนต้องแสวงหา

ทุกวันนี้ของเก๊เริ่มมีบ้างประปราย ยังไม่มาก

แต่หากใครคิดจะหามาบูชา...

ควรถามผู้รู้ให้แน่ใจ

เพราะพระแท้...ไม่ใช่แค่ราคา

แต่มันคือ “ความเชื่อ” และ “ความศรัทธา” ที่เงินก็ซื้อไม่ได้

เครดิตภาพ: คุณเชษฐ์ ไธสง



วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

หลวงปู่ผาง...ดงเค็ง..



...มีชื่อไม่อยากให้ปรากฏ
...มียศไม่อยากให้ลือชา
...มีวิชาแต่ไม่เคยทำให้ดูยาก

คำกล่าวนี้ คนเฒ่าคนแก่เล่าถึงพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่ง ด้วยเสียงเบา ๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยศรัทธา และถ้าเอ่ยนาม “หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต” แห่งวัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น คนฟังถึงกับตั้งใจฟัง เหมือนใจอยากเข้าเฝ้า

หลวงปู่ท่านไม่ใช่พระนักพูด
ไม่ใช่พระนักเทศน์แบบหวือหวา
แต่ท่านคือ “พระแท้” ที่ชาวอีสานนับถือหัวใจ ท่านสอนคนด้วยความเมตตา อยู่เรียบง่าย สมถะ แต่มีพลังแห่งศรัทธาที่ใครได้พบ ก็สัมผัสได้ทันทีว่า "ท่านไม่ธรรมดา"

แม้กระทั่งวัตถุมงคลของหลวงปู่ ก็ไม่ใช่ของที่สร้างเพื่อขาย...แต่สร้างเพื่อ “เตือนใจ” ว่าเราต้องอยู่ดี ทำดี และไม่ลืมพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ผมเอง “คนรู้น้อย” ไม่ได้รู้เรื่องพระเครื่องลึกซึ้งอะไรนักหรอกครับ แต่ผมมีหลวงปู่ผางติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ห้อยเหรียญของท่านที่ออกจาก “วัดดงเค็ง” อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่หลวงปู่อุปถัมภ์อยู่เงียบ ๆ ท่านเมตตาหลวงพ่อศรี เจ้าอาวาสที่นั่น ซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิด ทำให้คนในย่านประทายกับคนขอนแก่น ต่างก็ผูกพันกับวัดดงเค็งไม่แพ้กัน

ย้อนกลับไปปี พ.ศ. 2514
วัดดงเค็งมีโครงการสร้างพระอุโบสถ เลยไปนิมนต์หลวงปู่ผางมาร่วมเป็นประธาน ทั้งงานบุญ ทั้งการสร้างวัตถุมงคล

เหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่ที่ออกวัดดงเค็งจึงถือกำเนิดขึ้นในปีนั้น เป็นเหรียญเนื้อทองแดง 20,000 เหรียญ, สัมฤทธิ์ 1,000 เหรียญ และเงินอีก 200 เหรียญ รวม 21,200 องค์ เพื่อหารายได้สร้างอุโบสถ

ว่ากันว่า...เหรียญยังไม่ทันครบงานก็แทบหมด
ศรัทธาชาวบ้านแรงเหลือเกิน จนต้องสร้างเพิ่มอีก 20,000 เหรียญภายในปีเดียวกัน

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้นครับ

ในปี พ.ศ. 2517 มีการหล่อพระประธานขึ้นในโบสถ์ใหม่ วัดจึงจัดสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ผาง “ขนาดเท่าองค์จริง” ขึ้น 2 องค์ องค์หนึ่งประดิษฐานไว้ที่วัดดงเค็ง อีกองค์ถวายกลับวัดอุดมคงคาคีรีเขตต์

นอกจากนี้ ยังมีเหรียญเนื้อเงิน 516 เหรียญ
รูปหล่อโบราณเนื้อสัมฤทธิ์อุดกริ่ง
รูปเหมือนอุ้มบาตรเนื้อทองแดงอีก 1,000 องค์
และพระผงว่านพุทธคุณแบบสี่เหลี่ยมอีก 84,000 องค์

ทุกอย่าง...หลวงปู่เมตตาปลุกเสกให้หมด

พระผงว่านบางส่วนเหลือ ทางวัดยังไม่ออกให้บูชา หลวงปู่ผางท่านบอกว่า “ให้นำไปเก็บไว้ใต้ฐานพระประธานก่อน” ท่านไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร...แต่เพียงพูดว่า “ถึงเวลาค่อยเอาออกมา”

ใครจะไปคิดล่ะครับว่า อีก 20 กว่าปีให้หลัง วัดจะเจอน้ำท่วมใหญ่ อุโบสถเสียหายหนัก ต้องซ่อมแซม พอเปิดฐานพระออกมา...พระผงเหล่านั้นยังคงอยู่ครบ บางองค์มีคราบเหลืองเหมือนกรุเก่า ๆ ติดอยู่ สวยไปอีกแบบ สายพระผงชอบนักแล

ต่อมา พ.ศ. 2518 มีการจัดสร้างพระบูชาหน้าตัก 5 นิ้ว และพระผงว่านแบบกลม 22,518 องค์ ออกให้บูชาในงานผูกพัทธสีมา แล้วก็หมดอย่างรวดเร็ว

และที่สุดของที่สุด เหรียญอนามัย พ.ศ. 2519
เหรียญรูปไข่ ด้านหลังเป็นตราสัญลักษณ์สาธารณสุข ถือเป็นของแปลกที่คนรักสายหลวงปู่ต้องมีไว้ติดตัว

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือ
วัตถุมงคลที่หลวงปู่ผางปลุกเสกให้ “วัดดงเค็ง” อย่างแท้จริง

รุ่นไหนนอกเหนือจากนี้...เหรียญจิ๊กโก๋ใหญ่ เหรียญนักเลงโต หล่อทองเหลืองสารพัดแบบ...ที่ว่าออกวัดดงเค็ง“คนรู้น้อย” ไม่เคยเห็น ไม่เคยห้อย ไม่เคยพูดถึง เพราะ “ของแท้” นั้นมีเส้นสายของเวลา มีร่องรอยของศรัทธา และมีพยานในหมู่บ้าน

ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ
แต่ถ้าอยากรู้ให้หายข้องใจ...ให้ลองไปหา “เฮียตี๋ ดงเค็ง” จ้าวกรมตัวจริงของวงการพระหลวงปู่ผางสายดงเค็ง
ทุกรุ่น ทุกบล็อก ทุกเนื้อ เฮียแกมีหมด!

บางที...หลวงปู่ไม่ได้อยากให้เรามีพระไว้โชว์
แต่อยากให้เรา “มีพระไว้เตือนใจ”
และเรื่องราวทั้งหมดนี้...ขอเล่าไว้ให้ฟัง
จากหัวใจของ “คนรู้น้อย” ผู้ผูกพันกับท่านมาตั้งแต่ยังเด็ก